มาทำความรู้จักกัน IELTS คือ?

IELTS

3 กันยายน 2564|IELTS, การันตี IELTS 6.5, เรียน IELTS, เรียนไอเอลกับครูเจ้าของภาษา, ไอเอล, ไอเอลไม่ยากอย่างที่คิด

IELTS เรียนIELTS การันตีIELTS

             เชื่อว่าน้อง ๆ คงคุ้นเคยหรือเคยได้ยินคำว่า IELTS (ไอเอล) กันมาแล้ว IELTS ย่อมาจาก International English Language Testing System เป็นการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ด้รับความนิยมกันมากเพื่อนำคะแนนไปยื่นใช้ในการสมัครงานหรือเรียนต่อต่างประเทศ โดยคะแนนสอบของ IELTS ก็ได้รับการยอมรับจากองค์กรกว่า 11,000 แห่งทั่วโลก รวมถึงองค์กรระดับแนวหน้า ในเมืองไทยเองก็พิจารณาผู้สมัครงานจากคะแนนสอบ IELTS ด้วยเหมือนกัน เห็นมั้ยว่าแค่เรามีคะแนนสอบ IELTS ก็ทำให้เรามีโอกาสดีๆ ทางหน้าที่การงานได้
        น้อง ๆ ต้องรู้ก่อนจะลงทะเบียนสอบว่า การสอบ IELTS นั้นมี 2 แบบ คือ IELTS Academic หรือเรียกง่ายๆ ว่าการสอบ IELTS ระดับวิชาการ และ IELTS General Training ระดับทั่วไป ซึ่งก่อนเราจะลงทะเบียนเลือกสอบแบบไหน ก็ต้องมาดูว่าน้องๆ จะใช้คะแนนสอบ IELTS เพื่ออะไร? โดยถ้าน้องๆ ต้องการเรียนต่อระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโทในต่างประเทศที่มีการใช้ภาษาอังกฤษ หรือเพื่อสมัครงานในทางวิชาชีพ เช่น ทนายความ แพทย์ พยาบาล ก็ให้ลงทะเบียนสอบ IELTS แบบ Academic ซึ่งจะเน้นเนื้อหาในด้านวิชาการหน่อย ส่วน IELTS General Training สำหรับน้องๆที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศในระดับมัธยม หรือผู้ที่สนใจอยากจะเข้าร่วมการฝึกอบรม ทำงานหรือย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ดังนั้นเนื้อหาในข้อสอบก็จะง่ายกว่า IELTS Academic นอกจากนี้ยังมีการสอบ IELTS UKVI สำหรับน้องๆ ที่ต้องการจะไปทำงานหรือเรียนต่อในสหราชอาณาจักร ที่ต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าสหราชอาณาจักร และต้องแสดงหลักฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษซึ่งสหราชอาณาจักรได้รับรองการสอบ IELTS UKVI ไว้

            น้อง ๆ สามารถลงทะเบียนสอบ IELTS ที่นี้  ได้เลย ส่วนราคาค่าสมัครสอบ IELTS นั้นก็จะแตกต่างกันไป IELTS Regular 6,900 บาท IELTS on Computer 6,900 บาท IELTS for UKVI 7,710 บาท (CR. ielts.idp.co.th).มาดูกันดีกว่าข้อสอบ IELTS แต่ละพาร์ทนั้นมีอะไรบ้าง โดยทั้ง IELTS Academic และ IELTS General Training สิ่งที่จะต้องสอบเหมือนกันคือ การเขียน (Writing) การฟัง (Listening) การอ่าน (Reading) และการพูด (Speaking) แต่จะต่างกันตรงที่ระดับความยากของพาร์ท Reading และ Writing ของ IELTS Academic ที่แน่นอนว่าจะเน้นในเชิงวิชาการเป็นหลัก โดยในส่วนของ Reading นั้น เนื้อหาจะนำมาจากหนังสือ วารสาร นิตยสารและหนังสือพิมพ์ และการสอบ Writing หรือเขียน essay อธิบายมุมมอง รวมถึงข้อโต้แย้ง ซึ่งจะต้องซัพพอร์ทมุมมองของน้องๆ ที่เขียนลงไป โดยยกตัวอย่างจากความรู้และประสบการณ์ของน้องๆเอง หรืออาจจะต้องใช้กราฟ ตาราง แผนภูมิ หรือแผนภาพด้วย
         ส่วนข้อสอบ IELTS General Training ในพาร์ทการเขียน อาจจะยกสถานการณ์ขึ้น ให้น้องๆ เขียน essay ขอข้อมูลหรืออธิบายสถานการณ์ อาจเป็นแบบส่วนตัว กึ่งทางการ หรือเป็นทางการก็ได้
         หรืออาจจะมีให้เขียน essay อธิบายมุมมอง รวมถึงข้อโต้แย้งเช่นกัน แต่ลักษณะของessay จะเป็นทางการน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการสอบพาร์ท Writing ของ IELTS Academic และข้อสอบ Reading ของ IELTS General Training น้องๆ จะได้อ่านบทความที่ยกมาจากหนังสือ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ประกาศ โฆษณา คู่มือและแนวทางปฏิบัติของบริษัท ง่ายๆ ก็คือจะเป็นสิ่งที่เราสามารถพบเห็นข้อความเหล่านี้ในทุกๆวัน หากเราไปอยู่ต่างประเทศนั่นเอง
         และในข้อสอบพาร์ท Listening ก็จะคล้ายๆกัน สำหรับการทดสอบ IELTS Academic และ IELTS General Training น้องๆ จะได้ฟังบทสนทนาจากเจ้าของภาษาและจะได้ฟังเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และต้องตอบคำถาม 40 ข้อในตอนท้าย ส่วนพาร์ทสุดท้ายที่น้องๆ หลายคนอาจกลัวและมองว่ายาก ข้อสอบในพาร์ท Speaking นั่นเอง โดยใช้เวลาสอบ 11-14 นาที น้องๆ จะได้พูดในหัวข้อต่างๆ กับผู้ทดสอบที่เป็นเจ้าของภาษาทั้งสิ้น 3 หัวข้อ โดยใช้เวลาหัวข้อละ 4-5 นาที และผู้ทดสอบอาจถามคำถามเรากลับ ซึ่งมีน้องๆ หลายคนเองก็ตื่นเต้นและประหม่ากับการการสอบในพาร์ทนี้

          รู้จักข้อสอบ IELTS ไปคร่าวๆแล้วว่าต้องสอบอะไรบ้าง ก็ถึงเวลาที่ต้องเตรียมตัวก่อนสอบ น้องๆ หลายคนอาจมองว่าข้อสอบยาก แต่หากเราตัั้งใจฝึกฝน ใช้ภาษาอังฤษ ทั้ง 4 ด้าน ฟัง พูด อ่าน เขียน อย่างสม่ำเสมอ พี่เชื่อว่าน้อง ๆ ทุกคนทำได้ ไม่ว่าจะฝึกด้วยตนเอง หรือจะลงคอร์สเรียน IELTS ที่ทาง londoncentre เองก็มีคอรส์ที่การันตีคะแนนสอบ IELTS 6.5 ขึ้นไป และสอนโดยเจ้าของภาษาที่จะดูแลน้องๆ อย่างดีทั้งในห้องเรียน หรือแม้แต่นอกห้องเรียน จะทำให้น้องๆ ได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษอยู่ตลอดเวลา เชื่อว่าคะแนนสอบ IELTS ที่น้องๆ หวังไว้ในการไปเรียนต่อต่างประเทศ หรือสมัครงานก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป #IELTS